เป็นที่รัก - Chapter 04
- cherbetzx & wednes19
- Jun 25, 2019
- 1 min read
Updated: Aug 1, 2019
เป็นที่รัก - Chapter 04
เยี่ยนหงคิดว่านี่มันบ้ามาก
เขาไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ตัวเองเดินมาถึงห้องนอนชั้นสองของอีกฝ่ายได้ กระดุมเสื้อนอนของเขาถูกปลดลงสามเม็ดไม่ขาดไม่เกิน และเพราะมันเป็นผ้าเนื้อเบาที่พลิ้วไหวไม่อยู่ทรงตามการขยับของร่างกาย แผ่นอกของเขาจึงเปิดเผยออกมาวับๆ แวมๆ จนแม้แต่ตัวเองก็ยังรู้สึกว่าทำแบบนี้มันน่าอายยิ่งกว่าการถูกถอดเสื้อออกหมดเสียอีก
ใบหน้าสวยได้รูปของคุณนักแสดงเริ่มออกอาการแดงขึ้นมาด้วยความอายปนหวั่นไหว แม้จะทำใจมาบ้างแล้ว แต่พอเจอการปลุกเร้าของอู๋หยางเข้าจริงๆ หลินเยี่ยนหงก็รู้สึกว่าประสบการณ์วาบหวามทางร่างกายที่ผ่านมาของเขาช่างเป็นเพียงเด็กน้อยเหลือเกิน เพราะเพียงแค่ถูกริมฝีปากของอีกฝ่ายหยอกเย้าเบาๆ ที่ยอดอก เด็กหนุ่มก็เผลอร้องครางฮือในลำคอออกมาแล้วเกร็งตัวแน่นอย่างไม่ตั้งใจ
“ค คุณ อื้อ” มือข้างขวายกขึ้นปิดปากตัวเองทันทีที่หลุดเสียงหน้าอายออกไป อู๋หยางใช้มืออีกข้างเกลี่ยยอดอกของเขาเล่นไปมาก่อนจะตามมาด้วยการใช้ลิ้นไล้เลียสลับกับการขบเม้มด้วยแรงที่ไม่หนักไม่เบาจนเยี่ยนหงรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก
“อยากให้ฉันกัดมันหน่อยหรือเปล่า”
เขาส่ายหน้าปฏิเสธไปมาทันทีอย่างไม่ต้องคิด แค่นี้ก็รู้สึกอับอายมากพอแล้ว หากโดนกัดเพื่อกระตุ้นอารมณ์อีกคงไม่ไหวแน่ แต่แล้วดวงตากลมโตก็ต้องเบิกกว้างอย่างไม่เข้าใจกับการกระทำของชายหนุ่ม
“คุณ...”
หยุดทำไม
ดูเหมือนว่าอู๋หยางจะเข้าใจสีหน้าเป็นคำถามของอีกฝ่ายดี เขาไม่ตอบ ทำเพียงแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากล่างของตัวเองหนึ่งทีก่อนจะยื่นมือไปช่วยติดกระดุมเสื้อนอนของเยี่ยนหงให้กลับไปเรียบร้อยเหมือนเดิมราวกับกำลังช่วยเด็กเล็กๆ แต่งตัวอย่างไรอย่างนั้น
ท่าทางนิ่งสงบเหมือนเมื่อครู่ไม่ได้กำลังจะทำอะไรทำเอานักแสดงหนุ่มไปต่อไม่เป็น
หลินเยี่ยนหงกัดปากแล้วมองส่วนล่างของคนตรงหน้าที่น่าจะขยายตัวขึ้นมาเล็กน้อยด้วยความไม่เข้าใจ นอกจากนี้ยังมีความอายปนฉุนขึ้นมานิดๆ ที่ทุกอย่างถูกหยุดไว้กลางทางแบบนี้
เขาไม่มีเสน่ห์พอหรืออู๋หยางเป็นบ้ากันแน่
ทั้งๆ ที่อุตส่าห์เตรียมตัวเตรียมใจไว้ล่วงหน้ากับผลลัพธ์ที่อาจไปจบบนเตียงพร้อมเนื้อตัวเปลือยเปล่าและอาการเจ็บช่วงล่างที่น่าจะกินเวลาอย่างน้อยไปสองวันจนน่าหงุดหงิด
แต่สุดท้ายชายหนุ่มกลับรามือไปง่ายๆ แถมยังไม่คิดรับผิดชอบแบบนี้น่ะหรือ
“ฉันจะไม่ทำกับคนที่พึ่งส่ายหัวปฏิเสธหรอกนะ” น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยอย่างไม่แยแสจนเยี่ยนหงรู้สึกหมั่นไส้
ทว่าท่าทางของมาเฟียหนุ่มก็ไม่ได้ดูเสแสร้งแกล้งทำเพื่อให้เขาเป็นฝ่ายโผเข้าไปหาแล้วขอร้องให้อีกฝ่ายทำต่อจริงๆ เหมือนปากว่า หลินเยี่ยนหงเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันแล้วมองส่วนล่างที่ออกอาการเล็กน้อยของฝ่ายตรงข้ามก่อนจะเม้มปากแล้วเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย “ถ้าคุณไม่ทำแล้ว งั้นผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนแล้วกัน”
ไม่ทำก็ไม่ทำสิ!
เขาก็ไม่ได้ง้อหรืออยากมากสักหน่อย ก็แค่รู้สึกดีแปลกๆ กว่าที่เคยเจอก็เท่านั้นแหละ
พูดจบร่างโปร่งบางของนักแสดงหนุ่มก็เดินตรงไปที่ห้องน้ำภายในห้องนอนทันที ใบหน้าหวานจ้องมองตัวเองในกระจกด้วยอารมณ์หลากหลาย ทั้งอายทั้งหงุดหงิด นอกจากนี้แล้วเขายังรู้สึกอยากทุบอู๋หยางขึ้นมาด้วย
เขาส่ายหน้าก็จริง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะปฏิเสธนี่
หรือว่าเขาน่าเกลียด
คิดแล้วใบหน้าของเด็กหนุ่มก็เอียงซ้ายเอียงขวาสำรวจใบหน้าและร่างกายของตัวเองผ่านกระจกเงาบานใหญ่ที่ติดเต็มพื้นที่ส่วนล้างหน้า
อารมณ์ที่ถูกปลุกขึ้นมาตอนนี้หดหายไปแล้วตั้งแต่ได้ยินประโยคนั้นของอู๋หยาง
พอได้สงบสติอารมณ์ของตัวเองจนพอใจ ร่างของนักแสดงหนุ่มถึงได้เดินออกจากห้องน้ำไปด้วยสีหน้าที่ดีขึ้น แต่แล้วเขาก็ต้องพบกับร่างสูงใหญ่ที่ท่อนบนเปลือยเปล่ามีเพียงผ้าขนหนูสีน้ำเงินผืนเข้มพันช่วงล่างขวางไว้ ดูเหมือนว่าอู๋หยางคงเตรียมจะอาบน้ำแล้ว เยี่ยนหงจึงเบี่ยงตัวหลบนิดๆ เพื่อให้อีกฝ่ายเดินเข้าไป
“เดี๋ยวก่อน”
“มีอะไรอีกครับ”
“เธอนอนฝั่งซ้าย เหลือที่ฝั่งขวาให้ฉัน”
“ครับ”
กลับไปอ่านต่อ : คลิ๊ก
Comments